top of page
Search

7 เทคนิคการตอบคำถามคณะกรรมการประเมินการวิจัย/วิทยานิพนธ์ให้ปัง พร้อม 15 ตัวอย่างคำถาม : เคล็ดลับเพิ่มโอกาสผ่านพิจารณาโครงร่างและวิทยานิพนธ์

  • Writer: Chupasireen A Fredregill, Ph.D.Public Health
    Chupasireen A Fredregill, Ph.D.Public Health
  • May 22
  • 2 min read

Updated: May 25

บทนำ

หลังจากที่ผู้วิจัยได้พัฒนาโครงร่างการวิจัยหรือโครงร่างวิทยานิพนธ์แล้ว ขั้นตอนต่อไป จะเป็นการนำเสนอโครงร่างการวิจัยหรือโครงร่างวิทยานิพนธ์ ต่อคณะกรรมการประเมินการวิจัยหรือคณะกรรมการสอบโครงร่างวิทยานิพนธ์ฯ เพื่อประเมินความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในหัวข้อวิจัยของผู้วิจัย และให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

โดยทั่วไป คณะกรรมการสอบหรือคณะกรรมการประเมิน ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อและรูปแบบการวิจัย ประมาณ 3-5 ท่าน ซึ่งอาจจะมีมุมมองในการถามที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้วิจัยจึงควรมีการเตรียมตัวในการนำเสนอและตอบคำถามคณะกรรมการฯ ดังนี้


1. เตรียมคำตอบล่วงหน้า

 เคล็ดลับเตรียมคำตอบ

  • ฟังให้ครบถ้วนและอย่าเร่งรีบ

  • หากคำถามไม่ชัดเจน ควรถามกลับเพื่อให้สามารถตอบได้ตรงประเด็น เช่น "ผม/ดิฉันเข้าใจคำถามถูกต้องไหมครับ/ค่ะ..."

  • วิเคราะห์ว่าคำถามนี้เกี่ยวข้องกับอะไร เพื่อเตรียมคำตอบได้ตรงจุด

2. ฝึกตอบคำถามล่วงหน้า

  • ฝึกตอบคำถามล่วงหน้าเพื่อความมั่นใจ

  • เตรียมคำตอบให้ชัดเจนและกระชับ

  • ยึดหลักความเป็นจริงและข้อมูลสนับสนุน

  • พร้อมรับคำแนะนำ และคำติชมจากคณะกรรมการ

  • ฝึกตอบคำถามเหล่านั้นกับเพื่อนหรืออาจารย์ เพื่อความมั่นใจ

3. ตอบอย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติ

  • ใช้น้ำเสียงที่มั่นคงและจริงใจ

  • หลีกเลี่ยงคำว่า "ไม่แน่ใจ" หรือ "อาจจะ" ให้เน้นความมั่นใจในคำตอบของคุณ

  • ถ้าตอบไม่ได้ในทันที ให้ตอบว่า "ผม/ดิฉันจะตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง แล้วตอบให้ชัดเจนครับ/ค่ะ"

4. ใช้ข้อมูลทางวิชาการสนับสนุน

  • ยกตัวอย่างข้อมูล ผลงานก่อนหน้า หรือทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ

  • นำเสนอข้อมูล สถิติ หรือผลการศึกษา เพื่อสนับสนุนคำตอบของท่าน

5. ตอบให้ตรงประเด็นและกระชับ- - ท่าน

  • ตอบให้สั้นแต่ได้ใจความ หลีกเลี่ยงคำพูดซ้ำซ้อนหรือไม่เกี่ยวข้อง

  • ถ้าคำถามซับซ้อน ให้ตอบเป็นประเด็นๆ เพื่อความชัดเจน

6. แสดงความเข้าใจและเปิดรับคำติชม

  • แสดงความเข้าใจในข้อเสนอแนะหรือคำถาม ยอมรับว่ามีข้อผิดพลาดและพร้อมปรับปรุง

  • เช่น "ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ/ค่ะ ผม/ดิฉันจะนำไปปรับปรุงในส่วนนี้"

7. การใช้ภาษากายและน้ำเสียง

  • พยายามสบตา เป็นมิตรและมั่นใจ

  • ท่าทางเปิดเผย ไม่แสดงอาการกังวลหรือไม่มั่นใจเกินไป


ตัวอย่างเทคนิคการตอบคำถาม

  1. คำถาม: "ทำไมคุณเลือกหัวข้อนี้เป็นเรื่องวิจัย"

คำตอบ: เนื่องจากหัวข้อนี้กำลังเป็นปัญหาต่อ.....โดยมีสถานการณ์ ความรุนแรง และผลกระทบของปัญหาที่เพิ่มขึ้นทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่ (สรุปข้อมูลทางสถิติเพื่อยืนยัน ความรุนแรง และผลกระทบของปัญหาที่เพิ่มขึ้น)

  1. คำถาม: "วัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้คืออะไร"

คำตอบ: วัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้คือ เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ หรือมีผลต่อ...... หรือเพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรม.....โดยการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของ (ตัวแปร) ในกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุมภายหลังการทดลอง(ตอบตามวัตถุประสงค์หลักของการวิจัยที่ผู้วิจัยเขียนไว้ในโครงร่างการวิจัยหรือวิทยานิพนธ์)

  1. คำถาม: "ทฤษฎีที่ใช้ในการศึกษาคืออะไร ทำไมจึงเลือกใช้ทฤษฎีนี้"

คำตอบ: ทฤษฎีที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ .....ที่เลือกใช้ทฤษฎีนี้เนื่องจากจากการวิเคราะห์สภาพปัญหาและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่าทฤษฎีนี้มีความเหมาะสมกับบริบทของปัญหาเกี่ยวกับ..... (อธิบายประเด็นที่ศึกษา) ซึ่งจากการทบทวนงานวิจัยที่ผ่านมาที่ใช้ทฤษฎี.......... พบว่า...(สรุปผลการทบทวนงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง) ดังนั้นจึงได้ประยุกต์ทฤษฎีนี้ในการวิจัยครั้งนี้

  1. คำถาม: "การทบทวนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมีความสำคัญอย่างไร"

คำตอบ: ช่วยให้ทราบถึงแนวโน้มและทิศทางของการวิจัยเกี่ยวกับประเด็นนี้ ทำให้สามารถต่อยอดการวิจัยที่ทันสมัย และนำมาใช้ในการอภิปรายผลความสอดคล้องหรือไม่สอดคล้องกับผลการวิจัยในครั้งนี้

  1. คำถาม: "สรุปการทบทวนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่ใช้ทฤษฎีเดียวกันนี้ ได้ผลเป็นอย่างไร"

  คำตอบ: จากการทบทวนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่ใช้ทฤษฎีนี้พบว่า ตัวแปรอิสระมีความสัมพันธ์หรือมีผลอิทธิพลต่อตัวแปรตาม (ตามทฤษฎีนี้) อย่างไร (อธิบาย)

  1. คำถาม: "รูปแบบการวิจัยครั้งนี้คือรูปแบบใด"

คำตอบ: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัย.....(เชิงพรรณนา/ เชิงความสัมพันธ์/ เชิงอิทธิพล/ เชิงทดลอง/ เชิงกึ่งทดลอง/ เชิงปฏิบัติการ/ เชิงคุณภาพ/ เชิงประเมินผล

  1. คำถาม: "หน่วยการวิเคราะห์ (Unit of Analysis)คืออะไร"

คำตอบ: หน่วยการวิเคราะห์ในการวิจัยครั้งนี้คือใคร เช่น นักเรียนชั้นประถมศึกษา หรือมัธยมศึกษาตอนปลาย นักศึกษามหาวิทยาลัย..... ตัวแทนครัวเรือน ฯลฯ

  1. คำถาม: "วิธีที่ได้มาซึ่งกลุ่มตัวอย่าง ทำอย่างไร"

คำตอบ: ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย/ สุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบ/ สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน/ การเลือกแบบเจาะจง (แล้วอธิบายวิธีการสุ่มตัวอย่างที่ผู้วิจัยเลือกใช้)

  1. คำถาม: "อธิบายขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล"

    คำตอบ: ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย

1) ประสานงานพื้นที่วิจัย เพื่อขอความอนุเคราะห์เก็บรวบรวมข้อมูล

2) ประสานงานกลุ่มตัวอย่าง/ผู้ร่วมวิจัย และอธิบายวัตถุประสงค์ในการวิจัย ขั้นตอน วิธีการ ความเสี่ยง ผลประโยชน์ และสิทธิ์ของตนเอง เพื่อให้กลุ่มตัวอย่าง/ผู้ร่วมวิจัยมีความเข้าใจอย่างเต็มที่และสมัครใจเข้าร่วมการวิจัย โดยผู้เข้าร่วมวิจัยลงนามในแบบแสดงความยินยอมเข้าร่วมวิจัย (Informed Consent)

3) เก็บรวบรวมข้อมูล โดยวิธีใด เช่น การสอบถาม การสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์เจาะลึก การสนทนากลุ่ม การทดลอง ฯลฯ

  1. คำถาม: "วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติอย่างไร"

คำตอบ: การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ จำแนกเป็น

1) การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ได้แก่ ความถี่ (Frequency) ร้อยละ(%) ค่าเฉลี่ย (x̄ ) มัธยฐาน (Mdn ) ฐานนิยม (Mode) พิสัย (Range)(ค่าสูงสุด/ค่าต่ำสุด Max/Min) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)

2) การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงอ้างอิง (Inferential Statistics) ได้แก่ สถิติการทดสอบ Chi-Square, Pearson's Correlation, Simple Regression, Multiple Regression, Logistic Regression, Dependent Sample t-test, Independent Sample t-test, ANOVA, ANCOVA, ฯลฯ (ผู้วิจัยตอบตามสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ที่เขียนไว้ในโครงร่างการวิจัย/วิทยานิพนธ์ บทที่ 3)

กรณีการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

  1. คำถาม: "ถ้าผลการวิเคราะห์ข้อมูลไม่เป็นไปตามสมมติฐาน (ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ) ท่านจะมีวิธีดำเนินการอย่างไร ต่อไป"

คำตอบ: ยอมรับผลการวิจัย และอภิปรายผลว่าเพราะอะไรผลการวิจัยจึงไม่เป็นไปตามสมมติฐาน โดยอภิปรายความสอดคล้องหรือไม่สอดคล้องกับงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่ได้ทบทวนไว้ ในบทที่ 2 แล้วนำมาเขียนเป็นข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป

  1. คำถาม: "ความท้าทายหรืออุปสรรคที่คาดว่าจะพบคือในระหว่างการวิจัยครั้งนี้คืออะไร"

คำตอบ: 1) อาจพบปัญหาในการเก็บรวบรวมข้อมูลเนื่องจากกลุ่มตัวอย่าง/ผู้ร่วมวิจัยไม่สะดวกในการให้ข้อมูลในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งผม/ดิฉันได้วางแผนล่วงหน้าโดยการนัดหมายล่วงหน้า และเข้าทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจนครบถ้วน

2) อาจพบปัญหาที่กลุ่มตัวอย่าง/ผู้ร่วมวิจัย ไม่สามารถเข้าร่วมการวิจัยได้ครบตามกำหนดเวลา ซึ่งผม/ดิฉันได้วางแผนป้องกันการเกิดปัญหานี้ โดยการสร้างความไว้วางใจและสัมพันธภาพที่ดีกับกลุ่มตัวอย่าง/ผู้ร่วมวิจัย

  1. คำถาม: "หลังจากที่งานวิจัยเสร็จสิ้นแล้วท่านจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร"

คำตอบ: 1) นำไปประยุกต์ใช้(ในการปฏิบัติ)ในพื้นที่อื่นๆที่มีบริบททางเศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน

2) เป็นข้อเสนอแนะสำหรับผู้บริหารในการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้อง

  1. คำถาม: "ระยะเวลาในการทำวิจัยนานเท่าไร ท่านคิดว่าโครงร่างการวิจัยนี้มีความเป็นไปได้ในการดำเนินการให้สำเร็จตามระยะเวลาที่กำหนดมากน้อยเพียงใด"

คำตอบ ะยะเวลาในการทำวิจัยนาน......เดือน/ปี

คาดว่าโครงร่างการวิจัยนี้มีความเป็นไปได้ในการดำเนินการให้สำเร็จตามระยะเวลาที่กำหนด โดยผู้วิจัยได้จัดทำผังควบคุมกับงานวิจัยและดำเนินการตามผังควบคุมกับงานวิจัยทุกขั้นตอน

  1. คำถาม: "หลังจากการพิจารณาโครงร่างการวิจัยหรือวิทยานิพนธ์เสร็จสิ้นแล้ว ท่านจะดำเนินการขั้นตอนต่อไปอย่างไร"

คำตอบ: ดำเนินการตามขั้นตอน การพัฒนาเครื่องมือการวิจัย ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ ปรับปรุงเครื่องมือการวิจัย เพื่อนำไปใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลต่อไป


สรุป

  • การเตรียมคำตอบและฝึกตอบคำถามล่วงหน้าไว้ล่วงหน้า

  • ตอบคำถามตามหลักการทางวิชาการอย่างชัดเจนและตรงประเด็น

  • ฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อเตรียมไฟล์สำหรับการตอบคำถามหลังจากการนำเสนอโครงร่างวิจัย/วิทยานิพนธ์ จะช่วยให้การนำเสนอโครงร่างวิจัยหรือวิทยานิพนธ์เป็นไปอย่างราบรื่น และสร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ท่านเข้าใจ และเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานวิจัยจริงได้ดีขึ้นอีกด้วย

  • อย่าลืมทำหน้านำเสนอ "รายชื่อคณะกรรมการ" ในหน้าที่ 2 ต่อจากหน้าแรก: ชื่อเรื่องวิจัย ชื่อผู้วิจัย และชื่อ (อาจารย์)ที่ปรึกษา และ "ขอขอบคุณคณะกรรมการ..." ในหน้าสุดท้ายของการนำเสนอ

  • ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน E-Book เรื่องคัมภีร์นักวิจัย ในยุคดิจิทัล (The Researcher's Handbook in the Digital Age) โดย ดร.ชุภาศิริ อภินันท์เดชา (Chupasireen A Fredregill, Ph.D. Public Health)



    ree



 
 
 

Comments


bottom of page